โรคกรดไหลย้อน ห้ามกินอะไร?


กรดไหลย้อน เป็นโรคที่มักมีอาการเป็นๆ หายๆ อาการที่ไม่มีใครอยากเจอ หากผู้ป่วยยังคงมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบเดิม โดยเฉพาะอาหารการกินที่ส่งผลให้อาการกรดไหลย้อนเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น สิ่งที่ทำได้ก็คือเลี่ยงอาหารที่คนเป็นกรดไหลย้อนห้ามรับประทาน เพื่อไม่ให้อาการหนักมากกว่าเดิม

อาการกรดไหลย้อนใครลองได้เป็นก็คงทรมานไม่น้อย เนื่องจากโรคกรดไหลย้อนเป็นภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลกลับขึ้นไปในหลอดอาหาร คนที่เป็นกรดไหลย้อนจึงมักจะมีอาการแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ขึ้นมาที่หน้าอกและคอ ซึ่งอาการของโรคกรดไหลย้อนจะกำเริบมากขึ้นหลังจากที่กินอาหารมื้อหนักๆ หรือกินอาหารบางประเภทที่มีฤทธิ์กระตุ้นกรดให้หลั่งออกมามากขึ้น ซึ่งอาหารที่คนเป็นกรดไหลย้อนควรหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้อาการกรดไหลย้อนกำเริบ ก็มีดังนี้

1. อาหารไขมันสูง ผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนควรงดอาหารไขมันสูง เช่น อาหารทอด ๆ อาหารมัน ช็อกโกแลต ฟาสต์ฟู้ด อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น กะทิ นม เนย ชีส ไอศกรีม หรือไขมันจากเนื้อสัตว์ เป็นต้น เนื่องจากไขมันจากอาหารเหล่านี้จะไปรวมตัวกับกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการจุก แน่น หรือร้อนที่กลางหน้าอกได้

2. อาหารที่มีแก๊สมาก ไม่ว่าจะเป็น น้ำอัดลม ชา กาแฟ โซดา เครื่องดื่มชูกำลัง อาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด อาหารรสเผ็ดจัด หรือ ถั่ว เพราะอาหารกลุ่มนี้จะเข้าไปกระตุ้นให้มีการสร้างน้ำย่อยมากยิ่งขึ้น

3. น้ำส้มสายชู น้ำส้มสายชูจัดเป็นเครื่องปรุงรสที่มีกรดมาก ดังนั้นผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนไม่ควรเติมน้ำส้มสายชูลงในอาหาร เพราะจะเป็นการเพิ่มกรดในกระเพาะอาหารมากขึ้นไปอีก

4. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ สุรา ไวน์ ค็อกเทล หรือเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ทุกชนิด ผู้ป่วยกรดไหลย้อนควรหลีกเลี่ยง เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ไปกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารเปิดออก ทำให้กรดจากกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับไปที่หลอดอาหารได้ง่ายขึ้น

5. ผลไม้ที่มีกรดมาก ผลไม้ที่ผู้ป่วยกรดไหลย้อนห้ามกินหรือควรเลี่ยงไว้เป็นดี คือกลุ่มผลไม้ที่มีกรดมาก เช่น ส้ม องุ่น มะนาว มะเขือเทศ สับปะรด หรือน้ำผลไม้รสเปรี้ยวจัด รวมไปถึงซอสมะเขือเทศก็ควรเลี่ยงด้วยเช่นกัน

6. ผักที่มีกรดแก๊สมาก อย่างเช่น หอมหัวใหญ่ดิบ กระเทียม พริก พริกไทย หอมแดง เปปเปอร์มินต์ หรือสะระแหน่ รวมทั้งผักดิบทุกชนิดก็ควรเลี่ยง เพราะผักเหล่านี้จะไปเพิ่มกรดแก๊สในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก

7. อาหารหมักดอง อาหารหมักดองอย่าง ปลาร้า หน่อไม้ดอง ผักกาดดอง ผลไม้ดอง ผลไม้แช่อิ่ม กิมจิ ซูชิบางชนิดที่มีผักดอง ล้วนมีส่วนเพิ่มแก๊สในกระเพาะอาหาร ก่อให้เกิดอาการจุดเสียดแน่นท้องได้

8. อาหารเสริมที่มีไขมันสูง แม้แต่อาหารเสริมบางชนิดก็ควรหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะอาหารเสริมจำพวกน้ำมันตับปลา สารสกัดจากกระเทียม วิตามินอี หรือวิตามินซีก็เสี่ยงเพิ่มกรดในกระเพาะได้เช่นกัน

9. หมากฝรั่ง การเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นการเพิ่มการหลั่งน้ำลาย ทำให้เราต้องกลืนน้ำลายลงท้องมากขึ้น เท่ากับว่าได้กลืนลมลงกระเพาะอาหารมากขึ้นด้วย ดังนั้นผู้ป่วยกรดไหลย้อนจึงไม่ควรเคี้ยวหมากฝรั่งบ่อย ๆ

นอกจากนี้คนเป็นโรคกรดไหลย้อนควรงดสูบบุหรี่ และพยายามกินมื้อเย็นแค่พออิ่ม หรือเปลี่ยนมื้อเย็นเป็นผัก-ผลไม้แทน ที่สำคัญก็ไม่ควรกินแล้วนอน หรือเอนกายลงพักผ่อนทันที แต่ควรกินอาหารก่อนเข้านอน 3 ชั่วโมง และควรนอนตะแคงซ้ายพร้อมกับหนุนหัวเตียงให้สูงอย่างน้อย 6 นิ้ว อีกอย่างก็ควรควบคุมน้ำหนักตัวให้ดี อย่าให้มีน้ำหนักเกิน เพราะคนอ้วนจะมีความดันในช่องท้องสูง เสี่ยงต่อโรคกรดไหลย้อนได้มาก การมีวินัย ใส่ใจในการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้ถูกต้อง ไม่เพียงป้องกันโรคกรดไหลย้อนได้ แต่ยัง ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังและร้ายแรงอื่นๆ ได้อีกด้วย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อาการ กรดไหลย้อน รักษาเบื้องต้น อย่างไร?

รักษากรดไหลย้อนด้วยวิธีธรรมชาติ กับ 7 สมุนไพรเด็ด!