รักษากรดไหลย้อนด้วยวิธีธรรมชาติ กับ 7 สมุนไพรเด็ด!
รักษากรดไหลย้อนด้วยวิธีธรรมชาติ มีการใช้สมุนไพรในหลากหลายวิธี ในการรักษาโรคกรดไหลย้อน โดยทั่วไปแล้ว การรักษาด้วยวิธีธรรมชาตินั้น จะปลอดภัย แต่ทางที่ดีที่สุดก็คือ คุณจะต้องแน่ใจว่ามันจะปลอดภัยเมื่อคุณใช้ อาจจะเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาก่อน หรือลองใช้การรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตเพื่อทำให้อาการกรดไหลย้อนดียิ่งขึ้น
ถ้าคุณเป็นหญิงมีครรภ์ ให้พูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่เป็นอันตรายต่อทารก
ทางเลือกในการรับประทานสมุนไพรที่เราแนะนำเหล่านี้ เป็นหนึ่งในวิธีการรักษากรดไหลย้อนให้หายขาดโดยไม่ต้องไปพบแพทย์
1. ใบย่านาง โดยเฉพาะใบย่านางแดง สรรพคุณนั้นมีหลากหลาย เพราะเป็นสมุนไพรเย็น มีคลอโรฟิลล์สดจากธรรมชาติ และยังมีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายอีกมากมาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เบต้าแคโรทีนในปริมาณค่อนข้างสูง โดยเป็นสมุนไพรที่ใครหลาย ๆ คนต่างก็คุ้นเคยกันดี เพราะนิยมนำมาเป็นเครื่องปรุงรสช่วยเพิ่มความกลมกล่อมของอาหาร
2. ขิง มีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานในร่างกาย ที่สำคัญสามารถช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ในร่างกาย ตั้งแต่อาการคลื่นไส้ ไปจนถึงกรดไหลย้อน ขิงมีประสิทธิภาพสูงมากในการบรรเทาปัญหากรดไหลย้อน แนะนำให้รับประทานให้ได้วันละ 1 ช้อนชา สำหรับการบรรเทากรดไหลย้อนอย่างได้ผล และยังสามารถหาซื้อได้ง่าย แต่สำหรับผู้ป่วยที่รับประทานยาเบาหวานและยาต้านการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
3. ขมิ้นชัน ช่วยรักษาโรคลำไส้อักเสบ ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร กระตุ้นการหลังสารเมือกมาเคลือบกระเพาะอาหาร ยับยั้งการหลั่งน้ำย่อยและช่วยสมานแผล ขมิ้นชัน มีสารประกอบเคอร์คูมิน (curcumin) ช่วยต้านการอักเสบ ต้านการเกิดมะเร็ง และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยมอีกด้วยขมิ้นชันหาซื้อได้ง่ายทั้งแบบแคปซูลหรือแบบเม็ด ช่วยให้ง่ายต่อการรับประทาน
4. ขึ้นฉ่าย ช่วยบำรุงระบบย่อยอาหารในร่างกาย และยังช่วยลดอาการของโรคที่เกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ซึ่งรวมถึงโรคกรดไหลย้อน
5. ลูกยอ นำมาทำเป็นเครื่องดื่ม โดยลูกยอมีสารสโคโปเลติน (Scopoletin) เป็นส่วนประกอบ สารชนิดนี้สามารถช่วยลดการอักเสบของหลอดอาหารจากการไหลย้อนของกรดได้ผลดีพอ ๆ กับยามาตรฐาน คือ รานิทิดีน (Ranitidine) และยาแลนโซพราโซล (Lansoprazole) เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านการหลั่งของกรด ต้านการเกิดแผล และทำให้การบีบตัวของระบบทางเดินอาหารดีขึ้น โดยมีผลต่อระบบประสาทที่เกี่ยวข้องโดยตรง อีกทั้งยังสามารถเพิ่มการดูดซึมของยารานิทิดีนได้ด้วย
6. มัสตาร์ด เป็นเครื่องปรุงรสที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีความเป็นด่างและอุดมไปด้วยแร่ธาตุ เมล็ดมัสตาร์ดอุดมด้วยสารอาหารจากพืชที่เรียกว่า กลูโคไซโนเลตส์ (Glucosinolates) ซึ่งเป็นตัวทำให้มัสตาร์ดมีกลิ่นและรสจัด การรับประทานมัสตาร์ดเปล่า ๆ อาจจะยากสักหน่อย เพราะรสชาติแรงและกลิ่นฉุนอาจทำให้บางคนต้องหน้าบูดบึ้ง แต่ด้วยคุณสมบัติที่เป็นด่างของมัสตาร์ด จะช่วยต่อต้านและลดกรดที่ขึ้นไปที่คอ ช่วยลดอาการที่เกิดจากกรดไหลย้อนที่สำคัญได้ คือ อาการแสบร้อนกลางอกไปจนถึงลิ้นปี่
7. น้ำว่านหางจระเข้ สมุนไพรไทยครอบจักรวาล มีสรรพคุณมากมาย จะรับประทานเพื่อสุขภาพหรือทาผิวรักษาแผลสดก็ได้ ว่านหางจระเข้มีฤทธิ์เย็น มีประสิทธิภาพในการสู้กับกรดไหลย้อนได้เป็นอย่างดี เพื่อให้รับประทานได้ง่ายและได้รสชาติที่ดีขึ้น อาจชงผสมกับน้ำผลไม้ต่าง ๆ ที่ไม่เป็นกรด
อย่างไรก็ตาม หากคุณยังมีพฤติกรรมที่เสี่ยงกับการเป็นกรดไหลย้อนอยู่ การรับประทานสิ่งเหล่านี้อาจจะไม่สามารถช่วยคุณได้ดีนัก สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการศึกษาวิธีดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง และปรับพฤติกรรมต่าง ๆ ให้เหมาะสมดังนี้ คือ ไม่เข้านอนขณะที่ยังอิ่มอยู่ ไม่รับประทานอาหารมากเกินไป ควรรับประทานอาหารอย่างช้า ๆ ใส่เสื้อผ้าที่ไม่รัดรูปมากนัก ควรควบคุมน้ำหนัก งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก เช่น เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารที่มีรสจัด หัวหอม น้ำผลไม้หรือผลไม้ที่มีกรดมาก ช็อกโกแลต เป็นต้น
หากพบว่าเริ่มมีอาการกรดไหลย้อน ควรต้องรีบดูแลตัวเองและปรับพฤติกรรมในการใช้ชีวิตกันตั้งแต่เนิ่น ๆ หรือควบคู่กับอาการที่เป็น การรักษากรดไหลย้อนด้วยวิธีธรรมชาติจึงจะได้รับประโยชน์สูงสุด
ถ้าคุณเป็นหญิงมีครรภ์ ให้พูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่เป็นอันตรายต่อทารก
ทางเลือกในการรับประทานสมุนไพรที่เราแนะนำเหล่านี้ เป็นหนึ่งในวิธีการรักษากรดไหลย้อนให้หายขาดโดยไม่ต้องไปพบแพทย์
1. ใบย่านาง โดยเฉพาะใบย่านางแดง สรรพคุณนั้นมีหลากหลาย เพราะเป็นสมุนไพรเย็น มีคลอโรฟิลล์สดจากธรรมชาติ และยังมีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายอีกมากมาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เบต้าแคโรทีนในปริมาณค่อนข้างสูง โดยเป็นสมุนไพรที่ใครหลาย ๆ คนต่างก็คุ้นเคยกันดี เพราะนิยมนำมาเป็นเครื่องปรุงรสช่วยเพิ่มความกลมกล่อมของอาหาร
2. ขิง มีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานในร่างกาย ที่สำคัญสามารถช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ในร่างกาย ตั้งแต่อาการคลื่นไส้ ไปจนถึงกรดไหลย้อน ขิงมีประสิทธิภาพสูงมากในการบรรเทาปัญหากรดไหลย้อน แนะนำให้รับประทานให้ได้วันละ 1 ช้อนชา สำหรับการบรรเทากรดไหลย้อนอย่างได้ผล และยังสามารถหาซื้อได้ง่าย แต่สำหรับผู้ป่วยที่รับประทานยาเบาหวานและยาต้านการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
3. ขมิ้นชัน ช่วยรักษาโรคลำไส้อักเสบ ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร กระตุ้นการหลังสารเมือกมาเคลือบกระเพาะอาหาร ยับยั้งการหลั่งน้ำย่อยและช่วยสมานแผล ขมิ้นชัน มีสารประกอบเคอร์คูมิน (curcumin) ช่วยต้านการอักเสบ ต้านการเกิดมะเร็ง และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยมอีกด้วยขมิ้นชันหาซื้อได้ง่ายทั้งแบบแคปซูลหรือแบบเม็ด ช่วยให้ง่ายต่อการรับประทาน
4. ขึ้นฉ่าย ช่วยบำรุงระบบย่อยอาหารในร่างกาย และยังช่วยลดอาการของโรคที่เกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ซึ่งรวมถึงโรคกรดไหลย้อน
5. ลูกยอ นำมาทำเป็นเครื่องดื่ม โดยลูกยอมีสารสโคโปเลติน (Scopoletin) เป็นส่วนประกอบ สารชนิดนี้สามารถช่วยลดการอักเสบของหลอดอาหารจากการไหลย้อนของกรดได้ผลดีพอ ๆ กับยามาตรฐาน คือ รานิทิดีน (Ranitidine) และยาแลนโซพราโซล (Lansoprazole) เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านการหลั่งของกรด ต้านการเกิดแผล และทำให้การบีบตัวของระบบทางเดินอาหารดีขึ้น โดยมีผลต่อระบบประสาทที่เกี่ยวข้องโดยตรง อีกทั้งยังสามารถเพิ่มการดูดซึมของยารานิทิดีนได้ด้วย
6. มัสตาร์ด เป็นเครื่องปรุงรสที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีความเป็นด่างและอุดมไปด้วยแร่ธาตุ เมล็ดมัสตาร์ดอุดมด้วยสารอาหารจากพืชที่เรียกว่า กลูโคไซโนเลตส์ (Glucosinolates) ซึ่งเป็นตัวทำให้มัสตาร์ดมีกลิ่นและรสจัด การรับประทานมัสตาร์ดเปล่า ๆ อาจจะยากสักหน่อย เพราะรสชาติแรงและกลิ่นฉุนอาจทำให้บางคนต้องหน้าบูดบึ้ง แต่ด้วยคุณสมบัติที่เป็นด่างของมัสตาร์ด จะช่วยต่อต้านและลดกรดที่ขึ้นไปที่คอ ช่วยลดอาการที่เกิดจากกรดไหลย้อนที่สำคัญได้ คือ อาการแสบร้อนกลางอกไปจนถึงลิ้นปี่
7. น้ำว่านหางจระเข้ สมุนไพรไทยครอบจักรวาล มีสรรพคุณมากมาย จะรับประทานเพื่อสุขภาพหรือทาผิวรักษาแผลสดก็ได้ ว่านหางจระเข้มีฤทธิ์เย็น มีประสิทธิภาพในการสู้กับกรดไหลย้อนได้เป็นอย่างดี เพื่อให้รับประทานได้ง่ายและได้รสชาติที่ดีขึ้น อาจชงผสมกับน้ำผลไม้ต่าง ๆ ที่ไม่เป็นกรด
อย่างไรก็ตาม หากคุณยังมีพฤติกรรมที่เสี่ยงกับการเป็นกรดไหลย้อนอยู่ การรับประทานสิ่งเหล่านี้อาจจะไม่สามารถช่วยคุณได้ดีนัก สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการศึกษาวิธีดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง และปรับพฤติกรรมต่าง ๆ ให้เหมาะสมดังนี้ คือ ไม่เข้านอนขณะที่ยังอิ่มอยู่ ไม่รับประทานอาหารมากเกินไป ควรรับประทานอาหารอย่างช้า ๆ ใส่เสื้อผ้าที่ไม่รัดรูปมากนัก ควรควบคุมน้ำหนัก งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก เช่น เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารที่มีรสจัด หัวหอม น้ำผลไม้หรือผลไม้ที่มีกรดมาก ช็อกโกแลต เป็นต้น
หากพบว่าเริ่มมีอาการกรดไหลย้อน ควรต้องรีบดูแลตัวเองและปรับพฤติกรรมในการใช้ชีวิตกันตั้งแต่เนิ่น ๆ หรือควบคู่กับอาการที่เป็น การรักษากรดไหลย้อนด้วยวิธีธรรมชาติจึงจะได้รับประโยชน์สูงสุด

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น